วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

หน่วยที่ 6 การลงทุนในกองทุนรวม

หน่วยที่ 6 การลงทุนในกองทุนรวม
สาระสำคัญ
                การลงทุนเป็นกองทุนที่เกิดจากการระดม ทุนจากผู้ลงทุนรายย่อยรวมกันเป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่-มีผู้บริหารกองทุน-นำให้ได้ผลตอบแทนและนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนที่ลงทุน หน่วยลงทุน(unit trust) – หลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของเงินลงทุน (มูลค่าตราไว้= 10 บาท/หน่วยลงทุน)เงินกองทุนไปลงทุนผู้บริหารกองทุน คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.)
1.เป็นผู้จัดตั้งและบริหารกองทุนรวม
2.ติดตามดูแลการลงทุนในกองทุนรวม
การลงทุนของกองทุนรวม
กองทุนตราสารทุน(Equity Fund)
กองทุนตราสารหนี้(Fixed Income Fund)
กองทุนตลาดเงิน(Money Market Fund)
กองทุนผสม(Balanced Fund)
กองทุนเพื่อการลงทุนซื้อทรัพย์สินต่างๆ
ความเป็นมาของกองทุนรวม
ธุรกิจจัดการลงทุนมีการจัดตั้งครั้งแรก 14 มีนาคม 2518 คือ บริษัทกองทุนรวม จำกัดเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท หลักทรัพย์กองทุนรวม จำกัด(29 ธันวาคม 2518กองทุนรวมโครงการแรกในประเทศไทย พ.ศ.2520 โครงการกองทุนสินภิญโญ เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญ
-อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมจำกัด
-ขนาดของกองทุนมีมูลค่า 10 ล้านบาท
-แบ่งเป็น 5 ล้านหน่วยลงทุนมูลค่า หน่วยละ 20 บาทเดือนมีนาคม 2535 รัฐบาลสนับสนุนให้จัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนอีก 7 แห่ง
-เกิดการแข่งขันธุรกิจกองทุนรวม
-มีการใช้เครือข่ายธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์เป็นตัวแทนการขายหน่วยลงทุน
-มีการออกกฎหมายคุ้มครองผู้ลงทุน(กองทุนรวมที่ขายรุ่นแรก เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญ)เมื่อดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวลดลง(4 มกราคม 2537เป็นต้นมา)และวิกฤติเศรษฐกิจปีพ.ศ.2540 การดำเนินงานของกองทุนรวมเกิดผลขาดทุนจากกองทุนรวมประเภทหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ปี พ.ศ. 2545 มีการจัดตั้งโครงการลงทุนใหม่ๆขึ้นและบริษัททรัพย์จัดการกองทุนรวมมีจำนวนจัดตั้งเพิ่มขึ้นรวมเป็น 18 บริษัทโครงสร้างของกองทุนรวม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม
-บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมหรือบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.)
(เสนอขายหน่วยลงทุน)
(แจกจ่ายหนังสือชี้ชวนแก่ผู้สนใจลงทุน)
-สมาคมบริษัทจัดการลงทุน(AIMC )
( กำหนดจรรยาบรรณ วางมาตรฐานการปฏิบัติงานแก่บริษัทสมาชิกผู้จัดการกองทุนรวม)
( กำหนดบทลงโทษเมื่อมีการฝ่าฝืน )
-สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( สำนักงานก.ล.ต )
( พัฒนากำกับดูแลการดำเนินธุรกิจจัดการลงทุน )
( ออกกฎเกณฑ์ ประกาศข้อบังคับ ข้อกำหนด)
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม
-ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee )
( ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ถือหน่วยลงทุน )
( รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน )
( ตรวจสอบการบริหารจัดการกองทุนรวม )
( ชำระค่าซื้อและค่าขายทรัพย์สินของกองทุนรวม )
( เป็นตัวแทนการดำเนินคดีฟ้องร้องแทนผู้ถือหน่วยลงทุน)
-ตัวแทนสนับสนุนการขายหน่วยลงทุน
(แนะนำ เสนอขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตามกฎหมาย)
-นายทะเบียนหน่วยลงทุน
(ดูแล จัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม)
-ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
(ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของกองทุนรวม)
(ให้ความเห็นชอบงบการเงินของกองทุนรวม)
บทบาทของกองทุนรวม
1. พัฒนาตลาดทุนและตลาดการเงินให้เกิดเสถียรภาพการลงทุนภายในประเทศ
2. เป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินงานและขยายกิจการของบริษัทจดทะเบียน จากการลงทุนจากหลักทรัพย์เปิดจองใหม่ หรือหลักทรัพย์เพิ่มทุน
3. สร้างจุดดึงดูดการลงทุนต่างประเทศในรูปของเจ้าของหน่วยลงทุนแทนการลงทุนโดยตรงจากหลักทรัพย์
4. เกิดการพัฒนาตราสารทางการเงินให้เกิดคุณภาพและด้านผลตอบแทนในการแข่งขันการระดมเงินทุน
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวม
1. มีผู้ดูแลและตัดสินใจลงทุนแทนผู้ลงทุน โดยมีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญ
2. มีอำนาจการต่อรองเพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนมากขึ้นจากการบริการข้อมูลและข่าวสารของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ
3. มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีกว่านักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนด้วยตนเอง
4. มีสภาพคล่องสูงในการได้รับเงินคืนจากการซื้อขายหน่วยลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ
5. นักลงทุนสามารถเลือกรูปแบบและนโยบายการลงทุนตามจุดหมายได้
6. มีการคุ้มครองแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามมาตรการโดยสำนักงาน ก.ล.ต.
7. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรายได้ที่เกิดจากการลงทุนในหลักทรัพย์ของกองทุนรวมหรือยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์
ข้อเสียของการลงทุนในกองทุนรวม
1. ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมตลอดระยะเวลาแม้ว่าผลการบริหารกองทุนจะเกิดผลขาดทุนก็ไม่มีการยกเว้น
2. ผู้ถือหน่วยลงทุนขาดสิทธิการเข้าร่วมในการตัดสินใจบริหารจัดการลงทุน
3. ขาดความคล่องตัวในการลงทุน เนื่องจากต้องลงทุนผ่านบริษัทจัดการลงทุน
4. ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมได้รับข้อมูล / ข่าวสารการลงทุนล่าช้า
5. ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่สามารถบริหารสภาพคล่องการลงทุนได้เต็มที่ เนื่องจากอายุโครงการ และกฎหมายการถือครองหลักทรัพย์
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม
-พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ม. 117 - 132
-ประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ประกาศของคณะกรรมการก.ล.ต
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
1. ผู้ถือหน่วยลงทุน
1.1 ได้รับเงินปันผล -หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10
-นำเงินปันผลที่ได้ไปรวมคำนวณ กับรายได้อื่นๆเพื่อเสียภาษีสิ้นปี
1.2 เงินได้จากการขายหน่วยลงทุน ได้รับยกเว้นภาษี
2.กองทุนรวมที่เกิดรายได้ (ยกเว้นภาษี)
- เงินปันผล
- ดอกเบี้ยรับ
- ส่วนลดรับ
- กำไรส่วนเกินทุน
ประเภทของกองทุนรวม
-กองทุนรวมตามลักษณะการจัดจำหน่ายและการไถ่ถอนหน่วยลงทุน
-กองทุนรวมแยกประเภทตามนโยบายการลงทุน
-กองทุนรวมตามลักษณะการจัดจำหน่ายและการไถ่ถอน
( มีการแบ่งประเภทตามเงื่อนไขการซื้อขายกับผู้ถือหน่วยลงทุน )
-กองทุนปิด ( Closed –end Fund ) - กองทุนชนิดไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการจำนวนหน่วยลงทุนไม่เพิ่มขึ้น
-กองทุนเปิด ( Open –end Fund ) - กองทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเป็นกองทุนไม่มีกำหนดอายุโครงการจำนวนหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
-กองทุนรวมแยกประเภทตามนโยบายการลงทุน
( แบ่งตามนโยบายการลงทุน10 แบบมาตรฐานของสำนักงาน ก.ล.ต. )
-กองทุนรวมตราสารแห่งทุน ( Equity Fund ) - กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้น
-กองทุนรวมตราสารหนี้ ( Genaral Fixed Income Fund ) – กองทุนรวมที่มีนโยบายเลือกลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธนบัตรรัฐบาล หุ้นกู้
-กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ระยะยาว ( Long – Term Fixed Income Fund ) - กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว
กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ระยะสั้น ( Short – Term Fixed Income Fund ) - กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี กองทุนรวมตลาดเงิน( Money Market Fund )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายคล้ายกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ระยะสั้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยเช่น ตั๋วเงิน พันธบัตร เงินฝากธนาคาร
กองทุนรวมผสม ( Balanced Fund )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุกประเภทตามสัดส่วน
-การลงทุนในตราสารทุนในอัตราร้อยละ 35 – 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
-กองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น ( Flexible Portfolio Fund )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนตามสัดส่วน เงินลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้กองทุนรวมหน่วยลงทุน ( Fund of Funds )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมใบสำคัญแสดงสิทธิ ( Warrant Fund )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในใบสำคัญ แสดงสิทธิในการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างๆ
-กองทุนรวมกลุ่มธุรกิจ ( Sector Fund )
-กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของกิจการกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน
-กองทุนรวมประเภทพิเศษ
-กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ( Property Fund )
-กองทุนรวมที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้สม่ำเสมอหรือกำไรเพิ่มจากการขายอสังหาริมทรัพย์
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ( Foreign Investment Fund ) FIF )
-กองทุนที่นำเงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนภายในประเทศไปลงทุนในต่างประเทศเกี่ยวกับตราสารทุนหรือตราสารหนี้
กองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น ( Principle Capital Protection Fund )
-กองทุนรวมที่ลงทุนในพันธนบัตร / ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อคุ้มครองเงินต้นของหน่วยลงทุน แบ่งได้ 2 แบบ
-แบบ Passive - ลงทุนในพันธบัตร / ตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำประมาณ 90 % และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่า
- แบบ Active - ลงทุนในตราสารทุนมากกว่าพันธบัตร / ตราสารหนี้กรณีที่ราคาหลักทรัพย์สูงขึ้นโดยไม่ให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่ำกว่ามูลค่าที่เริ่มต้น
กองทุนรวมแบบมีประกัน ( Guarantee Fund )
-กองทุนรวมที่มีการรับประกันการจ่ายคืนเงินลงทุน พร้อมด้วยผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามเงื่อนไขที่กำหนดกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( Retirement Mutual Fund : RMF )กองทุนรวมที่มีจุดมุ่งหมายส่งเสริมการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียนอายุได้รับสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีโดยไม่ต้องนำ RMF ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ร้อยละ 15 แต่ไม่เกิน 300,000 บาทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( Long Term Fixed Income Fund : LIF )กองทุนรวมที่รวมหุ้นสามัญ จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับสิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษีเงินด้บุคคลธรรมดาสูงสุดไม่เกิน 15 % แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
หลักการลงทุนในกองทุนรวม
1.เตรียมความพร้อมก่อนลงทุน
1.1 เงินที่จะลงทุน-เงินออม
1.2 กำหนดจุดมุ่งหมายในการลงทุน ( ผลตอบแทน + ความเสี่ยง )
1.3 ศึกษาข้อมูลการลงทุน (วัตถุประสงค์ + เงื่อนไขของกองทุนรวม )
2.วางแนวทางการลงทุน
2.1 กระจายความเสี่ยงในการลงทุน
-การถือครองหน่วยลงทุนหลายๆกองทุนรวม
2.2 การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
-หน่วยลงทุนที่มีคุณภาพดี
- มีราคาตลาดต่ำกว่า มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ
2.3 การลงทุนหน่วยแบบเฉลี่ย
-กำหนดเงินลงทุนเป็นงวด
3.การเลือกซื้อหน่วยลงทุน
3.1 ศึกษาหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน
-ข้อมูลสำคัญ
-สถานที่ของบริษัทจัดการลงทุน
-จำนวนเงินทุนจดทะเบียน
-วัตถุประสงค์ นโยบายการลงทุนของโครงการ
-วิธีการจ่ายเงินปันผล
-หลักเกณฑ์และระยะเวลาการรับซื้อหน่วยลงทุนและการขายคืน
-รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดความเสี่ยง
-ค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นต้นทุนของการลงทุน
-ข้อแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในหน่วยลงทุน
-วัน เดือน ปี ที่รวบรวมข้อมูล / ตีพิมพ์
3.2 เลือกหาบริษัทจัดการลงทุน
-พิจารณาพื้นฐาน ประวัติความเป็นมา จำนวนลูกค้าและมูลค่าทรัพย์สิน
-ประเภทและบริการทางด้านการลงทุน / ความเชี่ยวชาญ
-แนวทางดำเนินงาน / วินัยและจรรยาบรรณ / สถานที่ทำการ / เครือข่าย / ระบบการสั่งซื้อ
ขาย
3.3 เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนรวม
-ร้อยละของผลตอบแทนจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยที่เปลี่ยนแปลง
-เปรียบเทียบผลตอบแทนกับความเสี่ยง
3.4 ให้ความสำคัญต่อค่าใช้จ่ายจากการลงทุนในกองทุนรวม
- ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ
- ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลประโยชน์
- ค่าใช้จ่ายดำเนินงานของนายทะเบียนค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อ / ผู้ถือหน่วยลงทุน
- ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
Expense Ratio = ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการลงทุนในกองทุนรวม/มูลค่าทรัพย์สินสุทธิถัวเฉลี่ยอัตราส่วนต่ำ = เกิดผลดีมีค่าใช้จ่ายน้อย
3.5 ปฏิบัติตามขั้นตอนของการซื้อขายหน่วยลงทุน
1.เปิดบัญชีกับเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทจัดการลงทุน
2.ขอแนะนำจากผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน
ผู้ติดต่อประเภท ก.
- บุคคลที่ทำหน้าที่วิเคราะห์หลักทรัพย์และให้คำแนะนำตามบทวิเคราะห์ของตนผู้ติดต่อ
ประเภท ข.
- ผู้ขายหลักทรัพย์ที่ให้คำแนะนำจากข้อมูลที่ได้จากผู้วิเคราะห์หลักทรัพย์
3. ติดตามผลการลงทุน
-จากหนังสือพิมพ์
-จากบริษัทจัดการลงทุน

-เว็บไซต์ของบริษัทจัดการลงทุน / สมาคมบริษัทลงทุน / กองทุนรวม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น